ปีศาจแดง หรือ แมนฯ ยูไนเต็ด หุ้นพุ่งกระฉูดหลังจากที่ประกาศว่าได้ตัว โรนัลโด้ กลับมาอยู่ทีมแล้ว

1 min read

 ปีศาจแดง

ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศหลังได้ตัว โรนัลโด้ กลับมาแล้วทำเอาหุ้นพุ่งกระฉูด

ปีศาจแดง หรือ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประกาศได้ตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับมาอยู่กับทีมแล้วนั้น หุ้นของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นถึง 8.22 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนกด “ไลก์” ทางทวิตเตอร์ก็ถล่มทลายกว่าตอนที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ประกาศได้ตัว ลิโอเนล เมสซี่ ซะอีก
หุ้นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดสโมสรแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พุ่งขึ้นสูงสุดถึง 8.22 เปอร์เซ็นต์ หลังจากที่ ” ปีศาจแดง ” ประกาศว่าได้ตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงชาวโปรตุกีสกลับมาอยู่กับทีมแล้วหลังโบกมือลา ยูเวนตุส

โรนัลโด้  ได้รับการยกย่องให้เป็นตำนานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ยังไม่ได้แขวนสตั๊ด ซึ่งตอนแรกกระแสข่าวมันเทไปในทิศทางว่าเขาจะย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองของยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วย แต่สุดท้ายก็เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ดึงเขากลับไปอยู่กับทีมได้
ข่าวดังกล่าวทำให้หลายคนที่เกี่ยวข้องกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ดีใจมากๆ ขณะที่ในด้านการเงินนั้นหลายคนก็มองว่าการกลับมาของ โรนัลโด้ จะส่งผลให้ทีมทำเงินได้มากมายก่ายกองจนซื้อหุ้นของสโมสรกันอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ในช่วงหนึ่งนั้นหุ้นของ แมนฯ ยูไนเต็ด สูงขึ้นถึง 8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนั่นทำให้หุ้นของพวกเขามีมูลค่าเพิ่มขึ้นราว 250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 9,000 ล้านบาท) ตามไปด้วย

นอกจากนี้ ในเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงหลังจากที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ประกาศทาง ทวิตเตอร์ ว่าได้ตัว โรนัลโด้ กลับมาอยู่กับทีมนั้น มันก็มีคนกด “ถูกใจ” โพสต์ดังกล่าวแตะหลัก 1 ล้านครั้งเข้าไปแล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้มันเป็นการประกาศเกี่ยวกับกีฬาที่มีคนกด “ไลก์” เยอะที่สุดทาง ทวิตเตอร์ หากนับเฉพาะช่วง 1 ชั่วโมงแรก ก่อนที่ปัจจุบันยอด “ไลก์” จะเพิ่มเป็น 1.7 ล้านครั้ง
ขณะเดียวกัน คนกด “ถูกใจ” การประกาศดังกล่าวของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังเยอะกว่าตอนที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง โพสต์คลิปเชิงสื่อว่าพวกเขาได้ตัว ลิโอเนล เมสซี่ มาร่วมทัพด้วย เพราะจนถึงปัจจุบันยอดกด “ไลก์” โพสต์ดังกล่าวของ “เปแอสเช” อยู่ที่ราว 919,600 ครั้ง

ติดตามข่าวสารฟุตบอลเพิ่มเติมได้ที่>>> www.soccer169.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

| Newsphere by AF themes.